วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

3 วิธีรักษาสิวไม่มีหัว เป็นไตอย่างได้ผล ไม่ต้องทนเจ็บอีกต่อไป

สิวคือหนึ่งในปัญหากวนใจใครหลายๆ คน โดยเฉพาะสิวไม่มีหัว ที่มีลักษณะเป็นไตแข็งด้านใน แม้จะไม่สร้างความรู้สึกเจ็บปวดหรืออักเสบ แต่ก็ถือว่าเป็นสิวกวนใจที่ปูดขึ้นมาบนใบหน้า ทำให้ผิวดูไม่เรียบเนียน ไม่ว่าจะบีบเค้นแค่ไหนสิวชนิดนี้ก็จะไม่ออกมา

ทั้งยังแถมรอยแผลให้เจ็บใจอีกด้วย ครั้นจะไปยิงเลเซอร์เพื่อกำจัดก็อาจจะต้องเสียเงินไปโดยเปล่าประโยชน์ เพราะไม่นานสิวประเภทนี้ก็จะกลับมาใหม่อีกครั้ง ดังนั้นลองมาดู 3 วิธีรักษาสิวไม่มีหัว เป็นไต แบบหมดจดด้วยวิธีง่ายๆ ดังนี้กันดีกว่าค่ะ



1.ทายารักษาสิวอุดตัน

ถ้าคุณต้องการใช้เป็นยารักษาสิว ให้คุณเลือกเป็นยารักษาสิวอุดตันโดยเฉพาะ เน้นออกฤทธิ์เพื่อการกำจัดสิวอุดตันที่มีส่วนผสมของ Benzoyl Peroxide และกรด BHA ควรเลือกใช้เป็นแบบเนื้อโลชั่นหรือเจลที่จะซึมซาบลงสู่ผิวได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว

ทั้งยังซึมซาบเข้าสู่ผิวที่มีสิวเป็นไตได้อย่างล้ำลึก จึงจะเป็นตัวช่วยสำคัญที่ช่วยทำให้สิวยุบลงอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นกรดผลไม้อย่าง AHA ร่วมด้วยเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการรักษาที่มากขึ้น

2.ประคบร้อน ประคบเย็น


ถ้าสิวไม่มีหัวเกิดเป็นไตแข็งที่บวมขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด ให้คุณทำการประคบร้อนด้วยการใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำอุ่นแล้วนำมาประคบตรงหัวสิวเพียงแค่ 3 นาทีต่อครั้ง จากนั้นให้คุณประคบร้อนไปเรื่อยๆ วันละ 2-3 ครั้ง สิวที่เป็นไตแข็งอยู่ด้านในจะเริ่มออกตัวแรงและลดการอักเสบได้ดี

แล้วให้ใช้การประคบเย็นต่อเพื่อทำให้ความบวมลดลง โดยการประคบเย็นนั้นให้ใช้เวลาประมาณ 5 นาที และทำเพียงแค่วันละ 1-2 ครั้ง เพียงเท่านี้สิวไม่มีหัวจะยุบลงอย่างรวดเร็ว

3.ทาน้ำผึ้งแท้

น้ำผึ้งแท้มีคุณสมบัติในการต้านเชื้อสิวหรือเชื้อแบคทีเรียได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะสิวอุดตันและสิวไม่มีหัว เมื่อใช้น้ำผึ้งแล้วจะช่วยทำให้ผิวยุบลงอย่างรวดเร็ว ใช้น้ำผึ้งทาลงบนสิวเพียงแค่ 30 นาทีต่อวัน หลังจากครบเวลาแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด สิวที่เป็นไตแข็งด้านในจะนุ่มลงและหายไปในที่สุด

ถ้าคุณกำลังมองหาวิธีทําให้สิวไม่มีหัว เป็นไตแข็งด้านใน ยุบลงอย่างรวดเร็ว โดยไม่จำเป็นต้องเสียเงินจำนวนมากเพื่อการทำเลเซอร์หรือทำทรีทเม้นต์ต่างๆ คุณสามารถนำทั้ง 3 วิธีนี้ไปใช้ได้ แต่ถ้าต้องการให้ได้ผลดีควรทำอย่างต่อเนื่องและสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้สิวไม่มีหัวก็จะไม่มากวนใจคุณอีกต่อไป
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สิวมีกี่ประเภท เช็กสิ! คุณกำลังเป็นสิวอะไรกันแน่

วันพุธที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2563

สิวมีกี่ประเภท เช็กสิ! คุณกำลังเป็นสิวอะไรกันแน่


สาวๆ ที่กำลังเริ่มแตกเนื้อสาว มักจะมีปัญหาเกี่ยวกับฮอร์โมนในร่างกายเริ่มเปลี่ยนแปลง จึงทำให้เกิดสิวขึ้นตามจุดต่างๆ มากมาย แต่การจะรักษาสิวเหล่านั้นให้ได้ผลนั้น คุณต้องรู้ก่อนว่าสิวมีกี่ประเภทและคุณกำลังเป็นสิวชนิดไหนอยู่กันแน่ ซึ่งเราก็มีข้อมูลมาบอกกันแล้วดังนี้ค่ะ

1.สิวอุดตัน

สิวอุดตันนั้นมีทั้งประเภทหัวขาวและหัวดำ โดยเป็นสิวที่เกิดจากการอุดตันที่ท่อของต่อมไขมัน จนทำให้เกิดการสะสมและดันตัวขึ้นมาจนเป็นสิวอุดตันนั่นเอง ซึ่งสิวประเภทนี้ก็จะรักษาได้ยากสักนิด เนื่องจากอุดตันอยู่ในผิวหนังนั่นเอง

2.สิวตุ่มนูนแดง

สิวลักษณะนี้จะเป็นตุ่มแดงขนาดเล็กแต่ไม่มีหัวสิวซึ่งเกิดจากแบคทีเรียอุดตันรูขุมขน ร่างกายจึงสร้างเซลล์มาเพื่อจัดการแบคทีเรียจึงทำให้เกิดการบวมแดงและสิวแบบนี้สามารถพัฒนาเป็นสิวอักเสบได้อีกด้วย โดยการใช้ยาเพื่อให้สิวยุบนั้นเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับสิวประเภทนี้ เพราะการบีบหรือกดไม่สามารถทำให้หัวสิวหลุดออกมาได้ เพราะหัวสิวสำหรับสิวแบบนี้จะอยู่ลึกมากหรืออาจไม่มีหัวเลยก็ได้

3.สิวหัวหนอง

เป็นสิวที่เกิดการจากการอุดตันแบบเดียวกับสิวอุดตัน แต่จะมีการอักเสบของรูขุมขมร่วมด้วยจึงทำให้เกิดเป็นหนองเป็นตุ่มบวมแดงและยังไวต่อการสัมผัสอีกด้วย และคุณไม่ควรบีบสิวด้วยตัวเองเพราะอาจทำให้เกิดการติดเชื้อที่มากกว่าเดิม

4.สิวอักเสบ

การเกิดสิวอักเสบนั้นเกิดจากความมันบนใบหน้า และมีการอุดตันของรูขุมขนที่เกิดจากเซลล์ผิวที่ตายแล้วไปคั่งค้างอยู่ในรูขุมขน ทำให้เกิดการอักเสบจนเป็นบริเวณกว้าง โดยตัวสิวจะไม่มีหัวแต่มีตุ่มแดงขนาดใหญ่กว่าสิวปกติ

5.สิวหัวช้าง

เป็นการอักเสบของสิวที่มีขนาดที่ใหญ่มาก ซึ่งแรกเริ่มจะเกิดเป็นตุ่มแดงเล็กๆ และเริ่มลามกลายเป็นตุ่มใหญ่ขนาดคล้ายซีสต์แต่ภายในนั้นเป็นหนองล้วนๆ และจะมีอาการเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อเป็นสิวชนิดนี้ต้องรีบไปพบแพทย์ให้แพทย์ทำการเจาะออกจะดีกว่า ห้ามบีบออกเองเด็ดขาดเพราะอาจทำให้ติดเชื้ออย่างใหญ่โตได้
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผิวสวยใสไร้สิว ไม่มัน ไม่เยิ้ม ด้วย 5 เคล็ดลับที่สาวๆ ทุกคนทำได้ไม่ยาก